ตำนานเพชรโฮป (Hope Diamond)

ประวัติความเป็นมาเกี่ยวกับเพชรที่มีชื่อว่า “เพชรโฮป (Hope Diamond)” เริ่มขึ้นเมื่อ พ่อค้าชาวฝรั่งเศส ชื่อ จอง แบปทิส ทาเวอร์เนีย (Jean Baptiste Tavernier) ได้ซื้อเพชรดิบน้ำหนัก 112 3/16 กะรัต จากเหมืองคอลเลอ (Kollur) เมืองกอลคอนดา (Golconda) ประเทศอินเดีย แล้วนำมาถวายพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ในปี ค.ศ. 1668 พระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ได้มีบัญชาให้ช่างเพชรแห่งราชสำนักเจียระไนเพชรเม็ดนี้ขึ้น เป็นเพชรเม็ดที่รู้จักกันในชื่อว่า “Blue Diamond of the Crown” หรือ “French Blue” ซึ่งนำไปตกแต่งบนสายสะพายเครื่องอิสริยาภรณ์ของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 พื่อใช้สวมใส่ในงานพิธีการต่างๆ ต่อมาเพชรเม็ดนี้ได้ตกทอดมาสู่ พระนางแมรี่ อังตัวเนตต์ (Marrie Antoinette) ซึ่งภายหลังจากเกิดการปฏิวัติครั้งใหญ่ เพชรเม็ดนี้ได้สูญหายไป

จนกระทั่ง ปี ค.ศ. 1830 เฮนรี่ ฟิลิป โฮป (Henry Philip Hope) ได้ซื้อเพชรเม็ดนี้ไว้ และหลังจากนั้นเขาก็ได้เสียชีวิตลงในปี ค.ศ. 1839 ทำให้เพชรแห่งความหวังตกทอดไปสู่ญาติพี่น้องตระกูลโฮป ในปี ค.ศ.1906 เพชรเม็ดดังกล่าวได้ผ่านจากมือของบุคคลผู้เป็นสมาชิกในครอบครัวของโฮป ไปอยู่ในมือของจาคส์ เซลอท ซึ่งเป็นตัวแทนจำหน่ายเพชรชาวเปอร์เซีย ซึ่งต่อมาเขาได้กระทำอัตตวินิบาตกรรม เจ้าของคนถัดมาคือ เจ้าชายคานิตอฟกีแห่งรัสเซีย ทรงซื้อเพชรเม็ดนี้ไว้ และมอบให้แก่นางสนมชาวฝรั่งเศส เพื่อใส่ไปแสดงละครที่ฟัวเยร์เบอร์เกร์ แต่ขณะที่เธอกำลังแสดงอยู่นั้นเจ้าชายก็ทรงปลิดชีพเธอด้วยอาวุธปืน และอีกสองวันต่อมาพระองค์ก็ถูกปลงพระชนม์โดยผู้ปฏิวัติชาวรัสเซีย


เจ้าของคนต่อมาเป็นชาวอียิปต์ที่ต้องจมน้ำตายทั้งครอบครัว เมื่อเกิดอุบัติเหตุเรือสำราญชนกันที่สิงคโปร์ นายหน้าคนต่อมาได้นำเพชรเม็ดนี้ไปขายให้กับสุลต่านแห่งตุรกี และนายหน้าคนดังกล่าวก็ต้องตายพร้อมภรรยาและลูกจากอุบัติเหตุรถยนต์ตกหน้าผา และสุลต่านแห่งตุรกีทรงมอบเพชรเม็ดนั้นให้แก่พระสนม แต่ตอนที่ถูกทหารของพระองค์กระทำรัฐประหารนั้นเอง กระสุนปืนได้พลาดไปถูกหล่อนจนถึงแก่ความตาย ส่วนสุลต่านถูกเนรเทศและขันทีผู้มีหน้าที่ดูแลรักษาเพชรเม็ดดังกล่าวก็ถูกจับแขวนคอ

จากนั้นบริษัทคาร์เทียร์เป็นผู้รับซื้อเพชรโฮปเม็ดนั้นไว้ แล้วนำไปขายต่อให้กับ ครอบครัวแมคลีน (McLean) อาถรรพ์ที่เกิดกับพวกเขาก็คือบุตรชายวัยแปดขวบของพวกเขาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถชน บุตรสาวและหลานสาวของพวกเขา ก็ตายเนื่องจากใช้ยาบาบิตูเรตเกินขนาด ส่วน เอ็ดเวิร์ด แมคลีน มีอาการคลุ้มคลั่ง วิกลจริต และเสียชีวิตในโรงพยาบาลโรคจิตแห่งหนึ่ง

ในที่สุด แฮรี่ วินสตัน (Harry Winston) ซึ่งเป็นพ่อค้าเพชรชาวนิวยอร์ก ได้ซื้อเพชรโฮป และมอบให้แก่สถาบัน สมิธโซเนียน (Smithsonian Institute) ในกรุงวอชิงตัน ดีซี ซึ่งดูเหมือนคำสาปแช่งจะยุติลงเพียงแค่นั้น อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางจดหมายจำนวนนับพันๆ ฉบับที่ส่งมาขอบคุณในการบริจาคของเขาครั้งนั้น

ข้อมูลเพชรโฮป (Hope Diamond)

  • น้ำหนัก 45.52 กะรัต
  • ขนาด ยาว 25.60 mm, กว้าง 21.78 mm, ลึก 12.00 mm
  • การเจียระไน รูปหมอน เหลี่ยมเกสร ขอบเจียระไน และมีเหลี่ยมแทรกที่ส่วนฐานเพชร
  • ความใสสะอาด VS1. มีร่องรอยการเจริญเติบโต ของผลึก
  • สี น้ำเงินแกมเทา (Fancy dark grayish-blue )

อ้างอิงข้อมูลจาก สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)