ยุคสมัยแห่งความไฮเทค

โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์ไฮเทคอื่นๆ กำลังทวีความสำคัญในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้นเรื่อยๆ และกลายเป็นอุปกรณ์เสริมแต่งระดับเดียวกันกับเครื่องประดับ

แบรนด์สินค้าหรูหราหลายแบรนด์ได้ตระหนักแล้วว่าว่าโทรศัพท์มือถือเป็นธุรกิจที่ทำกำไรสูงด้วยจำนวนโทรศัพท์มือถือที่ใช้งานกันอยู่กว่าห้าพันล้านเครื่องทั่วโลก ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา แบรนด์เหล่านี้เริ่มให้ความสำคัญกับสินค้าไฮเทคพร้อมกับแสดงให้เห็นความเชี่ยวชาญด้านการออกแบบ ในขณะที่แบรนด์ใหม่ๆ ก็สร้างชื่อในตลาดเฉพาะนี้โดยการมุ่งเป้าหมายไปยังลูกค้าซึ่งมีฐานะค่อนข้างดี

แบรนด์ใหม่รุกตลาดสินค้าหรูหรา

ในฐานะผู้บุกตลาดโทรศัพท์มือถือแบบหรูหรา Vertu เปิดตัวโทรศัพท์รุ่นแรก ในปี 2002 ซึ่งเป็นโทรศัพท์กลุ่มแรกของทางแบรนด์นั้นได้รับแรงบันดาลใจจากเครื่องประดับชั้นสูง และนาฬิกาที่มีสามระบบอยู่ในเรือนเดียว Vertu เชื่อมโยงเทคโนโลยีที่ดีที่สุดจากโลกโทรศัพท์มือถือขกับความเชี่ยวชาญจากช่างเครื่องประดับและช่างทำนาฬิกาทักษะสูง แต่ละเครื่องประดับด้วยชิ้นส่วนกว่า 270 ชิ้น ทั้งหมดผลิตขึ้นเพื่อ Vertu โดยเฉพาะ ซึ่งใช้วัสดุคุณภาพสูง ตั้งแต่เซรามิกที่ใช้ในกระสวยอวกาศไปจนถึงโลหะมีค่าและอัญมณี

ในปี 2006 Boucheron ร่วมทีม Vertu เพื่อเปิดตัวโทรศัพท์มือถือแบบหรูหราที่ตกแต่งด้วยรูปงูซึ่งทำจากเพชรและแซปไฟร์ นี่ถือเป็นครั้งแรกที่มีการร่วมมือกันระหว่างผู้ผลิตเครื่องประดับกับผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือ

ตลาดโทรศัพท์มือถือช่วยให้ผลิตเครื่องประดับสามารถเข้าถึงฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกค้าชาย ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของแบรนด์นาฬิกาและเครื่องประดับ ด้วยความร่วมมือกันดังเช่นความร่วมมือของ Boucheron และ Vertu รวมถึงการพัมนาความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์ใหญ่ๆ โทรศัพท์เคลื่อนที่จึงกลายเป็นอุปกรณ์เสริมแต่งเพื่อบ่งบอกถึงความหรูหราขั้นสุดยอด

TAG Heuer ซึ่งเปิดตัวโทรศัพท์มือถือ Meridiist ก็ได้วางจำหน่ายโทรศัพท์รุ่น Vintage Racing ในรูปแบบสปอร์ตที่ชวนให้นึกถึงโลกยานยนต์ หนังสีดำเจาะรูตาไก่สีแดงให้ความรู้สึกเหมือนถุงมือที่ใช้ในการขับรถแข่ง ตราสัญลักษณ์ GMT ซึ่งอยู่บนสัญลักษณ์ TAG Heuer ก็อ้างอิงถึงความเร็วและประสิทธิภาพของ Meridiist GMT สามารถบอกเวลาจากที่สองแห่งบนโลกได้พร้อมกัน ผุ้ใช้เชิงธุรกิจจึงสามารถจัดการกับเขตเวลาหลายๆ เขตได้ในขณะเดียวกัน และเปลี่ยนจากเขตหนึ่งไปยังอีกเขตหนึ่งได้ทันที

   

ศักยภาพในการสร้างผลกำไรจากการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิตอลทำให้บริษัทอย่าง Swarovski Gems ผลิตแอพพลิเคชั่นเฉพาะสำหรับโทรศัพท์มือถือ รวมถึง iPods MP3 iPhone โดยผู้อำนวยการของ Gem Vision กล่าวว่า Swarovski Gems เล็งเห็นศักยภาพที่สูงมากของตลาดนี้ซึ่งเทียบเท่ากับอุตสาหกรรมนาฬิกา เพราะไม่ว่าอย่างไรก็มีการซื้อโทรศัพท์ปีละเกือบพันล้านเครื่องทีเดียว”

นอกจากนี้ฝ่ายเครื่องประดับของ Swarovski ได้ร่วมทีมกับ Philips Group เพื่อผลิตสินค้ากลุ่ม Active Crystals ซึ่งประกอบด้วยอุปกรณ์เสริมมากมาย เช่นหูฟังและการ์ดหน่วยความจำประดับด้วยคริสตัล

ส่วนนักออกแบบชาวฝรั่งเศส Carole Guez ก็ก้าวไปสู่อีกขึ้นของการใช้สัญลักษณ์ด้วยการเปิดตัว Carte Ego บัตรเครดิตทองซึ่งสามารถใส่เป็นจี้ได้ ซึ่งได้มาจากแรงบันดาลใจของบาปหนักห้าประการ “ความทะนงตน ความหรูหรา ความโกรธ ความริษยา และความละโมบ” ซึ่งถือว่าเป็นจิตวิทยาที่นำมาใช้ในการสื่อสารได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้บางบริษัทได้นำดนตรีมาเชื่อมโยงกับความหรูหรา โดยมีการออกแบบวัสดุตกแต่งเป็นชิ้นเล็กโดยใช้แผ่นอลูมิเนียมดัดงอที่ผ่านความร้อนมาใช้เพื่อสร้างเส้นสายแบบประติมากรรมคล้ายกับงานศิลปะงาน Jeff Koons ในราคา 160,000 ยูโรแบรนด์ไฮไฟจากยุคทศวรรษ 1960

และสำหรับยุคที่ระบบเสียงแบบพกพา ระบบการชำระเงิน โทรศัพท์ และอุปกรณ์คอมพิวเตอรืเข้ามาบุกยึดชีวิตประจำวันของเรา สินค้าแต่ละชิ้นต่างก็เสนอโอกาสที่จะสะท้อนบุคลิกรวมถึงรูปแบบการใช้ชิวิตประจำวันของเรา สินค้าแต่ละชิ้นต่างก็เสนอโอกาสที่จะสะท้อนบุคลิกรวมถึงรูปแบบการใช้ชีวิตของเจ้าของด้วย และความต้องการที่จะแสดงออกนี้เป็นสิ่งที่แบรนด์ต่างๆ นำมาใช้ประโยชน์เพื่อให้สินค้าเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้

อ้างอิงข้อมูลจาก สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)