เครื่องประดับมาร์คาไซต์...ความหรูหราสไตล์อาร์ตเดโคผสมอาร์ตนูโว

อัญมณีสีดำสนิทดูลึกลับอย่างมาร์คาไซต์สามารถนำไปผสมผสานลงในชิ้นงานร่วมสมัยได้อย่างลงตัวไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในเครื่องประดับยุควิกตอเรียนอันหรูหราตระการตา และแม้อัญมณีชนิดนี้ถูกมองว่าเหมาะกับรูปลักษณ์คลาสสิกดูเป็นผู้ใหญ่ แต่โชคดีที่แนวโน้มงานออกแบบในปัจจุบันเริ่มเน้นให้เห็นความยืดหยุ่นในการใช้งานมาร์คาไซต์มากยิ่งขึ้น ด้วยรูปลักษณ์แบบวินเทจหรือย้อนยุคอันเป็นด้านถนัดของมาร์คาไซต์ กำลังเคลื่อนย้ายจากตลาดเฉพาะกลุ่มที่เหมาะกับสาวๆ หรือหนุ่มๆ ที่มีอายุ 35 ปีขึ้นไป และเข้าสู่กลุ่มวัยรุ่นที่ชื่นชอบเครื่องประดับมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีการเติมเต็มด้วยสีทองสดใสจากการใช้แร่ไพโรด์ เพื่อช่วยให้งานออกแบบมีรายละเอียดแฝงที่แปลกแหวกแนวมากขึ้นอีกด้วย ซึ่งเข้าคู่กับการรตกแต่งด้วยโทนสีดำในเครื่องประดับมาร์คาไซต์ก็เป็นที่ต้องการในเครื่องประดับมากยิ่งขึ้น

อาจกล่าวได้ว่าเครื่องประดับมาร์คาไซต์ถือเป็นงานย้อนยุ่คที่กลับมามีอิทธิพลในวงการแฟชั่นและเครื่องประดับ โดยส่วนใหญ่ งานมาร์คาไซต์จะเป็นผลงานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานยุคอาร์ตเดโคและอาร์ตนูโว และผสมผสานไปกับความทันสมัย จึงทำให้เครื่องประดับมาร์คาไซต์เข้าถึงกลุ่มผู้รักเครื่องประดับได้มากยิ่งขึ้น และด้วยความโดดเด่นอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมาร์คาไซต์ คือความที่สามารถเข้าคู่กับอัญมณีอื่นๆ ได้ง่าย และยังช่วยเสริมคุณค่าและความสวยงามของอัญมณีนั้นๆ ด้วย จึงทำให้มาร์คาไซต์ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และผลงานที่โดดเด่นของเครื่องประดับมาร์คาไซต์ที่ได้รับความนิยมในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ก็ได้แก่งานที่ใช้ลวดลายเป็นรูปสัตว์ต่างๆ โดยเฉพาะรูปงูนั้นได้รับความนิยมเป็นอย่างสูง


     


สำหรับผู้ที่ไม่สันทัดเรื่องของเครื่องประดับแนวอาร์ตเดโค (Art Deco) เราขออธิบายง่ายๆ สั้นๆ ดังนี้ ศิลปะแนวอาร์ตเดโคคือ เป็นศิลปะที่เกิดขึ้นก่อนศตวรรษที่ 20 หรือในราวปี ค.ศ. 1920 ซึ่งได้รับความนิยมมากในยุโรปและอเมริกา คล้ายๆ กับศิลปะอียิปโบราณ เน้นสีทอง และการออกแบบที่แสดงถึงความยิ่งใหญ่ ในการพัฒนารูปทรงของตัวอาคาร ที่มีลักษณะเป็นรูปเหลี่ยม ให้อารมณ์และความรู้สึกที่ดูหรูหราและสง่างาม Art Deco จัดเป็นรูปแบบหนึ่งของสไตล์การออกแบบที่เกิดขึ้นก่อนศตวรรษที่ 20 หรือในราวปี คศ.1925 ที่ประเทศฝรั่งเศส โดยเกิดตามหลังศิลปะสไตล์ Art Nouveau (อาร์ต นูโว) ซึ่งศิลปะสไตล์ Art Nouveau นี้ได้อิทธิพลมาจากพืชพรรณของต้นไม้ มีความอ่อนช้อย มีความเป็นผู้หญิง ถ้าจะบอกถึงเอกลักษณ์ของ Art Nouveau คือ ต้องใช้ช่างฝีมือชั้นสูงจึงทำจริงได้ยาก ไม่ว่าจะเป็นสถาปัตยกรรม ลวดลายฝาผนัง หรือข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ จะมีความเป็นผู้หญิงค่อนข้างมากซึ่งยุคต่อมาก็คือ Art Deco ถือว่า เป็นงานสไตล์หนึ่งที่ได้รับความนิยมในฝรั่งเศสเช่นเดียวกัน แต่มีเส้นสายที่อ่อนช้อยน้อยกว่า มีความเป็นเรขาคณิตมากขึ้น และลักษณะลวดลายนูนต่ำที่น้อยกว่า Art Nouveau งานศิลปะสไตล์นี้จะทำง่ายขึ้น มีการใช้รูปเหลี่ยมมากขึ้น มีการย่อมุม ถ้าเปรียบ Art Nouveau เป็นผู้หญิง Art Deco ก็คือสุภาพบุรุษ สมาร์ท หรูหรา และสง่างาม

งานอาร์ตเคโค กลับมาอีกครั้งด้วยรูปแบบของการออกแบบที่สมบูรณ์ทำให้ผลงานมีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น ด้วยรูปร่างของวงกลม สี่เหลี่ยม และสามเหลี่ยมที่มีการทำซ้ำเพื่อให้เกิดลวดลายที่สมบูรณ์มากยิ้งขึ้น ซ้ำยังมีขนานใหญ่กว่าปกติทำให้ยิ่งดูทันสมัย แต่ยังแฝงไปด้วยความคลาสสิค ซึ่งในบางครั้งมีการผสมผสานอัญมณีเข้าไปในรูปแบบของเครื่องประดับเพิ่มเติมเต็มสีสันอันงดงามของศิลปะนี้ให้ดูหรูหรา และแวววาวมากยิ่งขึ้นด้วย อย่างเช่นการนำลวดลาย และอัญมณีอันเป็นสัญลักษณ์ของเอเซียมาใช้ในการออกแบบ เช่นการผสามผสานหยกและ ออนิกซ์ประดับทั้งด้านหน้าและตรงกลางของเครื่องประดับ หรือการสร้างจังหวะที่ซ้ำกันไปมาของอัญมณีอย่างเพชรหรือมาร์คาร์ไซต์อีกด้วย



สุดท้ายนี้ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบเครื่องประดับทองคำ และอยากที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับทองคำ สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน) ได้เปิดหลักสูตร “ธุรกิจค้าทองคำและโลหะมีค่า” ซึ่งได้รวบรวมเนื้อหาเกี่ยวกับโลหะมีค่าทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็น ทองคำ เงิน แพลทินัม รวมทั้งเทคนิคการตรวจสอบ การขึ้นตัวเรื่อน การประเมินคุณภาพ รวมทั้งการซื้อขายกองทุนที่เกี่ยวข้องอีกด้วย ระหว่างวันที่ 21 กันยายน - 2 พฤศจิกายน 2556 นี้ สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ 0 2634 4999 ต่อ 301 - 313


อ้างอิงข้อมูลจาก
สถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ (องค์การมหาชน)

อ้างอิงภาพจาก
Ring from Colette Snake-Invasion
Necklace from pinterest